ผู้นำแบรนด์อุตสาหกรรมและมาตรฐานอุตสาหกรรมของเกาหลี
รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะกระจายสินค้าส่งออกและเพิ่มคุณภาพผ่านการคัดเลือกสินค้าคุณภาพชั้นหนึ่งทุกปี โครงการซึ่งเริ่มขึ้นในปี 2544 โดยมี 120 รายการและ 140 บริษัท ขยายเป็น 817 รายการและ 917 บริษัท ในปี 2562 และส่วนแบ่งการส่งออกยังมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจเกาหลีซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของการส่งออกของประเทศในช่วง ห้าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สัดส่วนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มขึ้นจาก 37% ในปี 2544 เป็น 76% ในปี 2562 ดังนั้นจึงมีส่วนช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์และอำนวยความสะดวกในการเข้าสู่ตลาดโลก
เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นองค์ประกอบที่แข็งแกร่งที่สุดของเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ครอบคลุมทักษะทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับนวัตกรรมการจัดการและการปฏิรูปการบริหาร ตลอดจนทักษะที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต มัลติมีเดีย และอุปกรณ์สื่อสาร
โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่มั่นคงของประเทศได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยเครือข่าย 4G ทั่วประเทศ บริการอินเทอร์เน็ตบนมือถือ 5G (เทคโนโลยีไร้สายรุ่นที่ห้า) เปิดให้บริการแล้วในปี 2019 การส่งออกที่เกี่ยวข้องกับ ICT ของเกาหลีใต้มีมูลค่า 176.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019
ประเทศแสดงความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติที่แข็งแกร่งในโทรศัพท์มือถือ เซมิคอนดักเตอร์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วง และ มุ่งมั่นที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำในภาคส่วนเหล่านี้อย่างไม่หยุดยั้งท่ามกลางสภาพแวดล้อมเทคโนโลยีสารสนเทศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปี 2019 ประเทศอยู่ในอันดับที่ 7 ของโลก โดยมียอดการผลิตรถยนต์ถึง 39.51 ล้านคัน นอกจากนี้ ประเทศยังมีความสามารถในการแข่งขันระดับโลกในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น เหล็กและเคมีภัณฑ์
ในฐานะที่เป็นภาคการส่งออกที่ค่อนข้างใหม่สำหรับเกาหลีใต้ ปริมาณการส่งออกเนื้อหาทางวัฒนธรรมเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 2.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2551 เป็น 9.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2561 เนื้อหาด้านวัฒนธรรมรวมถึงการตีพิมพ์ เพลง วิดีโอเกม ตัวละคร การออกอากาศ ภาพยนตร์ และเว็บตูน เกาหลีใต้มุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมเกมและเนื้อหาเกม
ในปี 2018 อุตสาหกรรมเกมในประเทศสร้างยอดขายได้ประมาณ 14 ล้านล้านวอน และการส่งออกประมาณ 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เกมพีซีและมือถือของเกาหลีกำลังได้รับความนิยมไม่เพียงแค่ในเอเชีย รวมถึงจีนและญี่ปุ่น แต่ยังรวมถึงในอเมริกาเหนือด้วย
รัฐบาลเสนอพิมพ์เขียวสำหรับการเป็นประเทศชั้นนำในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่โดยสนับสนุนการเริ่มต้นธุรกิจด้านนวัตกรรมและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในเชิงรุก
ส่วนหนึ่งของความพยายามดังกล่าว คณะกรรมการพิเศษเกี่ยวกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่จะมุ่งเน้นที่การสร้างระบบนิเวศสำหรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ ซึ่งเทคโนโลยีและบริการด้าน ICT ใหม่สามารถสร้างเส้นทางใหม่ได้ คณะกรรมการจะทำหน้าที่เป็นเวทียุทธศาสตร์ที่เตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของประเทศผ่านการปฏิรูปกฎระเบียบ การวิจัยขั้นพื้นฐาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในอุตสาหกรรมในอนาคต
เกาหลีใต้ครองตำแหน่งที่สองในดัชนีนวัตกรรมระดับโลกของ Bloomberg ในปี 2020 โดยครองตำแหน่งในสามอันดับแรกเป็นเวลาเก้าปีติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2555 ดัชนีนวัตกรรม Bloomberg ประเมินประเทศต่างๆ โดยใช้ตัวชี้วัดเจ็ดตัว
ปัจจุบัน เกาหลีใต้กำลังพยายามทุกวิถีทางในการเปลี่ยนแปลงตนเองให้เป็นระบบเศรษฐกิจโลก แม้ว่าประเทศจะเติบโตอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็ทำให้เกิดความไม่สมดุลในการพัฒนาระหว่างธุรกิจขนาดใหญ่และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เนื่องจากนโยบายเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาการส่งออกที่นำโดยวิสาหกิจขนาดใหญ่ . ด้วยเหตุนี้ ความจำเป็นในการเติบโตร่วมกันจึงถูกแยกออกมาเป็นวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ สิ่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นปัญหาระดับโลกท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2551
ในปี 2010 คณะกรรมการประธานาธิบดีเพื่อการเติบโตร่วมกันสำหรับบริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็กได้รับการเปิดตัวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยุติข้อขัดแย้งระหว่างธุรกิจขนาดใหญ่และ SMEs คณะกรรมการได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่สร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเติบโตร่วมกันในอุตสาหกรรม ติดตามและประกาศดัชนีการเติบโตร่วมกันของธุรกิจขนาดใหญ่ กำหนดภาคส่วนและรายการที่เหมาะสมสำหรับ SMEs และการแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างธุรกิจขนาดใหญ่และ SMEs ตามฉันทามติทางสังคม
การประชุมสุดยอด G20 ในกรุงโซลปี 2010 จัดขึ้นในหัวข้อ: การเติบโตร่วมกันเหนือวิกฤต การประชุมสุดยอด G20 ก่อตั้งขึ้นหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2551 โดยพิจารณาจากมุมมองที่ว่าจำเป็นต้องมีประเทศเกิดใหม่รายใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมในการอภิปรายทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เนื่องจากการประชุมสุดยอด G7 มีข้อ จำกัด บางประการในแง่นี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีการชี้ให้เห็นว่าระบบการเงินระหว่างประเทศล้มเหลวในการสะท้อนข้อเท็จจริงที่ว่าส่วนแบ่งและบทบาทของประเทศเกิดใหม่ได้ขยายออกไปในระดับมากในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา
ในการประชุมสุดยอด G20 ที่กรุงโซลปี 2010 เกาหลีใต้เข้ารับตำแหน่งประธานซึ่งบ่งชี้ว่าบทบาทอย่างแข็งขันของประเทศในระเบียบเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ผู้นำการประชุมได้นำปฏิญญาผู้นำการประชุมสุดยอดโซล G20 ไปพร้อมกับเอกสารการประชุมสุดยอดโซลเพื่อเป็นกรอบการทำงานเพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่ง ยั่งยืน และสมดุล พวกเขายังประกาศภาคผนวกสามภาค: ฉันทามติการพัฒนากรุงโซลเพื่อการเติบโตร่วมกัน แผนปฏิบัติการหลายปี และแผนปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต
ปฏิญญาผู้นำการประชุมสุดยอดโซลเน้นย้ำบทบาทของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเกิดใหม่ในการยุติสงครามแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศระหว่างประเทศหลักๆ และปฏิรูป IMF ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของประเทศอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นไปที่ความต้องการเร่งด่วนในการรักษาเสถียรภาพของตลาดการเงินโลกและให้การสนับสนุนประเทศยากจนที่ดิ้นรนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การประกาศนี้ไปไกลในการเสริมสร้างสถานะของเกาหลีใต้ในตลาดเศรษฐกิจและการเงินโลก
อุตสาหกรรมหลัก และภาพรวมด้านการตลาดของประเทศเกาหลีใต้
อุตสาหกรรมหลัก
ประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีพื้นที่ติดทะเลเป็นส่วนใหญ่ จึงมีอุตสาหกรรมทางด้านการต่อเรือที่โดดเด่น นอกจากนั้นยังเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นใหม่นั้น ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมเหมืองแร่ กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว
1.กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมต่อเรือ
ประเทศเกาหลีใต้กลายเป็นประเทศชั้นนำในอุตสาหกรรมต่อเรือ โดยประเทศเกาหลีใต้ได้รับส่วนแบ่ง 50.6% ของตลาดต่อเรือทั่วโลก ซึ่งเป็นผู้ส่งออกอุตสาหกรรมต่อเรือเป็นอันดับหนึ่งของโลกบริษัทต่อเรือที่สำคัญ ได้แก่ Hyundai Heavy Industries, Samsung Heavy Industries, Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering, and STX Offshore & Shipbuilding, the world’s four largest shipbuilding companies. STX Offshore & Shipbuilding also owns STX
2.กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์
อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ประเทศเกาหลีใต้มีเทคโนโลยีในการผลิตยานยนต์ในระดับสูงและมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนสามารถผลิตรถยนต์เป็นอันดับ 5 และส่งออกเป็นอันดับ 6
3.กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว
เนื่องจากประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีประวิติศาสตร์อย่างยาวนาน มีวัฒนธรรมและประเพณีที่สวยงาม รวมไปถึงการมีแหล่งซื้อขายแลกเปลี่ยนสินและภาพยนต์ที่โด่งดังมากมาย จึงเป็นการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยว โดยมีนักท่องเที่ยวมากถึง 6.4 ล้านคนต่อปี
ภาพรวมด้านการตลาด
ข้อมูลจากสำนักพัฒนาการตลาดระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า ผู้ชายเกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาผิวพรรณให้ดูดี และเชื่อว่าผู้ที่มีผิวพรรณเรียบเนียน สุขภาพดี เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จในสังคมได้ โดยพบว่าในปี 2554 ผู้ชายเกาหลีใต้ใช้จ่ายค่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวถึง 495 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 21 ของมูลค่าทั่วโลก
เกาหลีใต้เพิ่มความหรูหรา และความพิเศษเฉพาะสำหรับเสริมบริการด้านการท่องเที่ยว ประกอบด้วยมัคคุเทศก์ที่สื่อสารได้หลายภาษา รถลีมูซีน และรูปแบบการท่องเที่ยวตามที่นักท่องเที่ยวต้องการ (Tailored Itineraries) สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มั่งคั่ง รวมถึงการจัดทริปช้อปปิ้ง การตรวจเช็คสุขภาพ และศัลยกรรมพลาสติก โดยการท่องเที่ยวลักษณะนี้จะทำรายได้สูงถึง 150 ล้านวอน (132,000 เหรียญสหรัฐ) โดยพบว่าจำนวนการจอง ทริปลักษณะนี้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 จากปี 2554 นอกจากนี้ชาวเกาหลีใต้ยังนิยมดื่มชาไหมข้าวโพดเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ ด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และคงความอ่อนเยาว์ของเซลล์
อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปการเติบโตของสินค้ากลุ่มนี้ในตลาดส่วนใหญ่จะได้รับความนิยมในช่วง 3-4 ปีแรก ด้วยลักษณะผู้บริโภคเกาหลีใต้ปัจจุบันให้ความสำคัญในการรักษาสุขภาพอย่างมาก และมักได้รับกระแสอิทธิพลความนิยมจากบุคคลที่มีชื่อเสียง แวดวงบันเทิง หรือวงการโทรทัศน์
เรารู้จักประเทศเกาหลีใต้จากอะไร ? เพลง ซีรีส์ ภาพยนตร์ เกม การ์ตูน หรือแอนิเมชัน สำหรับประเทศไทยกระแสเกาหลีเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาประมาณปี ค.ศ. 2000 จากละครเรื่อง Autumn in my Heart รักนี้ชั่วนิรันดร์ ต่อด้วย My Sassy Girl ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม Full House สะดุดรักที่พักใจ เสริมทัพด้วยละคร Jewel in the Palace หรือ แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง ไปจนถึงเครื่องสำอาง แฟชั่น อาหาร คาแรคเตอร์ และสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย
ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กลายเป็นสินค้าส่งออกหลักของประเทศที่สร้างเม็ดเงินมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ละคร เกม การ์ตูน หรือเพลงต่างๆ เราจึงพามาดูกันว่าอะไรที่ทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีมาไกลและกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไปในที่สุด
จากประเทศที่เคยถูกจัดอันดับว่ายากจนที่สุดในโลกเพราะมีสงคราม สู่การเป็นประเทศชั้นนำของโลกในวันนี้ ปัจจุบันเกาหลีใต้กลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 12 ของโลก มีมูลค่ากว่า 1.63 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีรายได้ต่อหัวเฉลี่ยประมาณ 30,757 เหรียญสหรัฐต่อปี อีกทั้งยังได้รับคัดเลือกเข้าไปอยู่ในกลุ่ม The Next 11 หรือประเทศมหาอำนาจเกิดใหม่ทางเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 21 (Emerging Market) รวมกับบังกลาเทศ อียิปต์ อินโดนีเซีย อิหร่าน เม็กซิโก ไนจีเรีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ตุรกี และเวียดนาม
ย้อนกลับไปในขณะที่ประเทศกำลังเดินหน้าพัฒนา ในปี ค.ศ. 1997 กลับต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากพิษวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก ทำให้เกาหลีใต้ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศถึง 57 พันล้านเหรียญสหรัฐและจากวิกฤตดังกล่าวได้กลายเป็นแรงผลักดันมหาศาลให้เกาหลีต้องปรับตัวหันมามุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างจริงจัง จนเกิดเป็นกระแส Korean Wave หรือ Hallyu ดังไปทั่วโลกในปี ค.ศ. 2000
กระแสเกาหลี (Korean Wave) หรือ Hallyu คือปรากฏการณ์การแพร่ของวัฒนธรรมร่วมสมัยของเกาหลีใต้ออกไปทั่วโลก ผ่านสื่อบันเทิง เช่น เพลง ภาพยนตร์ เกมออนไลน์ และอื่น ๆ โดยปรากฏการณ์นี้สร้างรายได้ให้แก่เกาหลีใต้เป็นเงินกว่า 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ผ่านการส่งออกวัฒนธรรม ยกตัวอย่างการส่งออกละครโทรทัศน์เรื่อง แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง ที่ทำรายได้จากลิขสิทธิ์ถึง 103.4 ล้านเหรียญสหรัฐในตอนนั้น