เทศกาลประชาธิปไตยเสรีซอแดมุน

เทศกาลประชาธิปไตยเสรีซอแดมุน

jumbo jili

เทศกาล Seodaemun Independence Democracy เป็นเทศกาลที่เริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2010 และทำให้เรานึกถึงความหมายของอิสรภาพและคุณค่าของประชาธิปไตยในวันที่ 15 สิงหาคม 1945 จัดขึ้นทุกปีในวันประกาศอิสรภาพและสองวันในวันประกาศอิสรภาพ เทศกาลประชาธิปไตยเสรีซอแดมุนจัดขึ้นที่หอประวัติศาสตร์เรือนจำซอแดมุน ซึ่งเรือนจำซอแดมุนได้รับการตกแต่งใหม่ โปรแกรมต่างๆ เช่น คอนเสิร์ตประวัติศาสตร์ แฟลชม็อบการมีส่วนร่วมของผู้ชม ประสบการณ์ประชาธิปไตยที่เป็นอิสระ และชีวิตประจำวันของนักเคลื่อนไหวอิสระที่ถูกจองจำจะถูกจัดขึ้น

สล็อต

เทศกาลประชาธิปไตยเสรีซอแดมุนเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นที่หอประวัติศาสตร์เรือนจำซอแดมุนเนื่องในโอกาสวันประกาศอิสรภาพ 8/15 เรือนจำ Seodaemun เป็นการบูรณะเรือนจำ Gyeongseong และ Seodaemun ในช่วงยุคอาณานิคมของญี่ปุ่นโดยการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกของศูนย์กักกันเก่าของกรุงโซล
เมื่อเรือนจำ Gyeongseong ที่สร้างขึ้นในปี 1908 ถึงขีดจำกัดของความจุ เรือนจำใหม่ถูกสร้างขึ้นใน Mapo ในปี 1912 และเรือนจำถูกตั้งชื่อว่าเรือนจำ Gyeongseong เป็นผลให้อาคารเรือนจำ Gyeongseong ที่มีอยู่ถูกเรียกว่าเรือนจำ Seodaemun เรือนจำซอแดมุนแห่งนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเรือนจำซอแดมุนในปี 1923 หลังจากการปลดปล่อยในปี 1945 เรือนจำแห่งนี้กลายเป็นเรือนจำโซล ต่อมาคือเรือนจำโซลในปี 1961 และศูนย์กักกันโซลในปี 1967 ในปี 1987 ศูนย์กักกันกรุงโซลได้ย้ายไปที่ Uiwang-si, Gyeonggi-do ดังนั้นในปี 1988 อาคารศูนย์กักกันกรุงโซลในซอแดมุนจึงถูกกำหนดให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติหมายเลข 324 และในปี 1998 ได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เรือนจำซอแดมุน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เรือนจำซอแดมุนถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติหมายเลข 10-1-23 ในปี 2550
เรือนจำ Seodaemun เป็นเรือนจำที่น่าอับอายที่กักขังนักเคลื่อนไหวอิสระในระหว่างการยึดครองของญี่ปุ่นและนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในช่วงการปกครองแบบเผด็จการทหารและเป็นสถานที่ที่มีชีวิตในประวัติศาสตร์สมัยใหม่และร่วมสมัย เรือนจำส่วนใหญ่ในเรือนจำซอแดมุนมีขนาด 3 ถึง 5 พยอง แต่คุกใต้ดินนั้นโดดเดี่ยวและแคบประมาณ 1 พยอง ขนาดเพียงอย่างเดียวสามารถคาดเดาความทุกข์ทรมานของนักเคลื่อนไหวอิสระที่ถูกคุมขังในคุกในขณะนั้น Oksa และกำแพงกั้นของเรือนจำ Seodaemun มีโครงสร้าง panopticon ซึ่งไม่ธรรมดาในเกาหลี Panopticon เป็นคำประสมของ pan (ทั้งหมด) + optcion (ดู) และผู้คุมที่อยู่ตรงกลางเรือนจำสามารถตรวจสอบได้ทุกเรื่อง แต่จุดศูนย์กลางที่ผู้คุมนั้นมืด ดังนั้นผู้สังเกตการณ์จึงตรวจสอบการมีอยู่ของ ยาม.ทำยาก มันเป็นรูปแบบของยุคจักรวรรดิและเผด็จการ
เทศกาล Seodaemun Independence Democracy Festival ซึ่งจัดขึ้นในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ดังกล่าว มีการจัดรายการต่างๆ มากมาย เช่น คอนเสิร์ตประวัติศาสตร์ กลุ่มแฟลชม็อบที่มีผู้ชมเข้าร่วม Independence Democracy Experience Center และการชมนักโทษที่ได้รับอิสรภาพทุกวัน ผ่านโปรแกรมต่างๆ เหล่านี้ ความสุขของการปลดปล่อยและความหมายของประชาธิปไตยได้สะท้อนออกมา เสรีภาพและสันติภาพกลับเป็นที่ยอมรับอีกครั้ง
เทศกาล Seodaemun Independence Democracy มีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นไปที่ประวัติศาสตร์ของยุคอาณานิคมของญี่ปุ่นท่ามกลางประวัติศาสตร์ของเรือนจำ Seodaemun และมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ผู้คนที่เกี่ยวข้องกับขบวนการประชาธิปไตยถูกคุมขัง ทรมาน และประหารชีวิตในช่วงยุคอาณานิคมตลอดจนเผด็จการทหาร นั่นคือเหตุผลที่ชื่อเทศกาลนี้เรียกว่า ‘Independence Democracy’
มันไม่ง่ายเลยที่จะเอาความเจ็บปวดที่คุณไม่อยากเปิดเผยออกมาอีกครั้งในฐานะเทศกาลที่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดจากการพลิกผัน เฉกเช่นชีวิตของเราไม่ได้เต็มไปด้วยความสุขเสมอไป ประวัติศาสตร์ของเราก็ไม่ใช่ทุกสิ่งที่เราต้องการเปิดเผยเสมอไป อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยประวัติศาสตร์อันเจ็บปวดก็เป็นการแสดงเจตจำนงที่จะไม่สร้างประวัติศาสตร์อันเจ็บปวดที่ซ้ำรอยอีก เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น การศึกษาประวัติศาสตร์ที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้ ในแง่นั้น เทศกาล Seodaemun Independence Democracy ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาเนื้อหาที่สามารถบรรเทาความเจ็บปวดได้ แม้ว่าจะไม่ง่าย แต่ธีมและเอกลักษณ์ที่ชัดเจนสามารถกลายเป็นธีมสำหรับเทศกาลที่ทุกคนสามารถเกี่ยวข้องได้
ประชาธิปไตยเสรีนิยม หรือ ประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม (อังกฤษ: Liberal democracy) หรือบ้างเรียก ประชาธิปไตยแบบตะวันตก เป็นทั้งคตินิยมทางการเมืองและระบอบการปกครองรูปแบบหนึ่ง ที่การปกครองแบบประชาธิปไตยแบบมีผู้แทนจะดำเนินการใต้หลักเสรีนิยม คือ การพิทักษ์สิทธิของปัจเจกบุคคล ซึ่งโดยทั่วไปจะระบุไว้ในกฎหมาย ระบอบมีลักษณะเฉพาะ คือ
มีการเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรม และมีการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองหลายพรรคที่แยกจากกันอย่างชัดเจน
มีการแยกใช้อำนาจ
ใช้หลักนิติธรรมในชีวิตประจำวันโดยเป็นส่วนของสังคมเปิด
เศรษฐกิจแบบตลาดโดยมีทรัพย์สินส่วนบุคคล
คุ้มครองสิทธิมนุษยชน สิทธิพลเมือง เสรีภาพพลเมือง และเสรีภาพทางการเมืองอย่างเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน
การนิยามระบบดังกล่าวในทางปฏิบัติ บ่อยครั้งจะกำหนดในรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจประมวลเป็นลายลักษณ์อักษร หรือยังไม่ประมวลขึ้น (เช่น สหราชอาณาจักร) ก็ได้ เพื่อวางเค้าโครงอำนาจของรัฐบาลและประดิษฐานสัญญาประชาคม หลังมีความแพร่หลายมากขึ้นตลอดครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ประชาธิปไตยเสรีนิยมก็ได้กลายเป็นระบบการเมืองที่ใช้กันมากที่สุดในโลก
รัฐประชาธิปไตยเสรีนิยมมีหลายรูปแบบ อาจเป็นราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ หรือสาธารณรัฐ และอาจเป็นระบบรัฐสภา ระบบประธานาธิบดี หรือระบบกึ่งประธานาธิบดีก็ได้
ระบอบนี้ปกติจะมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนทั่วไป คือให้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งแก่ประชากรที่ถึงวัยทุกคนโดยไม่คำนึงถึงชาติพันธุ์ เพศ การถือครองทรัพย์สิน เชื้อชาติ อายุ (สูงสุด) เพศสภาพ รายได้ สถานภาพทางสังคมหรือศาสนา แต่ในอดีตประเทศที่ถูกจัดให้เป็นประชาธิปไตยเสรีนิยมก็เคยมีการจำกัดสิทธิออกเสียงเลือกตั้งด้วยเช่นกัน แม้ในปัจจุบัน บางประเทศที่จัดให้เป็นประชาธิปไตยเสรีนิยมก็ไม่ได้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนทั่วไปอย่างแท้จริง เช่น สหราชอาณาจักรและสหรัฐส่วนใหญ่ตัดสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งแก่ผู้ต้องโทษจำคุกเป็นเวลานาน ข้อมูลของ Coppedge และ Reinicke พบว่าประเทศร้อยละ 85 ในโลกมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนทั่วไป หลายประเทศกำหนดให้ต้องมีเอกสารพิสูจน์รูปพรรณก่อนได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ ในการเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์ตัดสินใจที่แท้จริงคือผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ออกไปใช้สิทธิ์ ไม่ใช่พลเมืองทุกคน

สล็อตออนไลน์

รัฐธรรมนูญประชาธิปไตยแบบเสรีนิยมจะนิยามความเป็นประชาธิปไตยของรัฐ จุดประสงค์ของรัฐธรรมนูญบ่อยครั้งมองว่า เพื่อจำกัดอำนาจของรัฐบาล ระบอบนี้ เน้นการแยกใช้อำนาจ ความเป็นอิสระของตุลาการ และระบบดุลอำนาจระหว่างฝ่ายต่าง ๆ ของรัฐ และมักจะเน้นความสำคัญว่า รัฐต้องทำตามหลักนิติธรรม อำนาจของรัฐบาลจะเป็นเรื่องชอบธรรมก็ต่อเมื่อเป็นไปตามกฎหมายที่เขียน ผ่านการยอมรับ แล้วเปิดเผยเป็นสาธารณะ และเมื่อบริหารตามกฎระเบียบที่วางไว้ ประเทศหลายประเทศใช้ระบบสหพันธรัฐ ซึ่งแยกใช้อำนาจแบบแนวตั้งด้วย เพื่อป้องกันการใช้อำนาจผิด ๆ และเพิ่มส่วนร่วมของประชาชนโดยแบ่งอำนาจระหว่างเทศบาลเมือง สภาจังหวัด และรัฐบาลประเทศ เช่น ในเยอรมนี รัฐบาลกลางมีหน้าที่ออกกฎหมาย แต่รัฐบาลรัฐ (Länder) เป็นผู้บริหารอำนาจหลายอย่าง
สิทธิเสรีภาพ
ในทางปฏิบัติแล้ว ระบอบประชาธิปไตยก็จำกัดเสรีภาพบางอย่างด้วย มีข้อจำกัดตามกฎหมายต่าง ๆ เช่น เรื่องลิขสิทธิ์และการหมิ่นประมาท อาจจำกัดการพูดต่อต้านประชาธิปไตย ความพยายามบั่นทอนสิทธิมนุษยชน และการโปรโหมตหรือให้เหตุผลเพื่อการก่อการร้าย มีข้อจำกัดเช่นนี้เกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์ในสหรัฐช่วงสงครามเย็นซึ่งมากกว่าในยุโรป ปัจจุบันมักจะใช้จำกัดองค์กรที่มองว่า โปรโหมตการก่อการร้ายจริง ๆ หรือยั่วยุให้กลุ่มต่าง ๆ เกลียดชังกัน ตัวอย่างรวมทั้งกฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย การปิดการออกอากาศทางดาวเทียมของฮิซบุลลอฮ์ โดยมีผู้คัดค้านว่า การจำกัดอาจมากเกิน และอาจไม่มีการพิจารณาทางตุลาการที่ยุติธรรมและควรได้รับ
เหตุผลสามัญสำหรับกฎหมายเหล่านี้ก็คือ เพื่อการอยู่รอดของประชาธิปไตยและเพื่อเสรีภาพเอง ยกตัวอย่างเช่น เสรีภาพในการพูดที่สนับสนุนการสังหารหมู่ จะบั่นทอนสิทธิการมีชีวิตและความปลอดภัย ความเห็นจะต่างกันในเรื่องว่า ระบบจะต้องปกป้องศัตรูของประชาธิปไตยในกระบวนการทางประชาธิปไตยแค่ไหน
ถ้าบุคคลจำนวนน้อยถูกจำกัดเสรีภาพเพราะเหตุผลเช่นนี้ ประเทศนั้น ๆ ยังอาจพิจารณาได้ว่า เป็นประชาธิปไตยเสรีนิยม แต่ก็มีคนคัดค้านว่า นี้ต่างกันโดยแค่จำนวนไม่ได้ต่างกันโดยลักษณะ จากอัตตาธิปไตยที่ตามลงโทษศัตรู เพราะเพียงแค่มีคนที่ได้รับผลจำนวนน้อยกว่า และข้อจำกัดรุนแรงน้อยกว่า ส่วนคนอื่น ๆ ก็ย้ำว่า ประชาธิปไตยก็ยังต่าง คืออย่างน้อยโดยทฤษฎี ศัตรูของประชาธิปไตยยังได้รับการพิจารณาทางกฎหมายตามหลักนิติธรรม

jumboslot

อย่างไรก็ดี รัฐที่พิจารณาว่าเป็นประชาธิปไตยก็ยังมีข้อจำกัดในการพูดต่อต้านประชาธิปไตย เช่น การปฏิเสธฮอโลคอสต์[ต้องการอ้างอิง] การพูดให้เกลียด การพูดในเรือนจำ ซึ่งมองว่าเป็นกรณีพิเศษเกี่ยวกับเสรีภาพในการพูด สมาชิกองค์กรทางการเมืองที่สัมพันธ์กับระบอบเผด็จการก่อน ๆ (เช่น ลัทธิคอมมิวนิสต์ ลัทธิฟาสซิสต์ หรือระบอบนาซี) ก็อาจถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้ออกคะแนนเสียงหรือไม่ให้ดำรงตำแหน่งบางอย่าง การเลือกประพฤติอาจถูกห้าม เช่น เจ้าของธุรกิจปฏิเสธไม่ให้บริการบุคคลเนื่องจากเชื้อชาติ ศาสนา ชาติพันธุ์ เพศ หรือรสนิยมทางเพศ ยกตัวอย่างในแคนาดาเช่น สำนักพิมพ์ที่ปฏิเสธไม่ให้บริการต่อกลุ่มรักร่วมเพศทั้งถูกปรับ เสียค่าทนายตัวเอง และต้องเสียค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับกฎหมายของอีกฝ่ายโดยคำสั่งศาล
สิทธิที่พิจารณาว่าเป็นรากฐานสำคัญในประเทศหนึ่ง อาจจะเป็นอะไรที่แปลกในอีกประเทศหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น รัฐธรรมนูญของแคนาดา อินเดีย อิสราเอล เม็กซิโก และสหรัฐ ต่างรับประกันไม่ให้ถูกฟ้องซ้ำทางอาญาเนื่องจากความผิดเดียวกัน (double jeopardy) ซึ่งเป็นสิทธิที่ไม่มีในประเทศอื่น ๆ อนึ่ง ระบบที่เลือกตั้งลูกขุน (เช่น สวีเดน) จะมองระบบตุลาการที่เกี่ยวข้องกับการเมืองบางส่วนว่า เป็นองค์ประกอบหลักสำหรับภาระรับผิดชอบของรัฐบาล แต่นี่เป็นเรื่องแปลกในระบบที่ใช้ลูกขุนพิจารณาคดีเพื่อกันอิทธิพลจากนักการเมือง และคล้าย ๆ กัน คนอเมริกันจำนวนมากพิจารณาสิทธิในการเก็บและถืออาวุธ ว่าเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อป้องกันสิทธิในการปฏิวัติรัฐบาลที่ใช้อำนาจผิด ๆ ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ไม่ยอมรับว่านี่เป็นสิทธิพื้นฐาน และหลายประเทศรวมทั้งสหราชอาณาจักรยังมีกฎหมายที่เคร่งครัดเกี่ยวกับมีปืนส่วนตัว
เงื่อนไขเบื้องต้น
แม้ว่าจะไม่ใช่ส่วนของระบอบการปกครอง เสรีภาพทั้งส่วนบุคคลและทางเศรษฐกิจพอประมาณ ที่มีผลขยายจำนวนคนชั้นกลางจนกลายเป็นประชาสังคมที่เจริญรุ่งเรืองและแพร่ไปอย่างกว้างขวาง บ่อยครั้งมองว่า เป็นเงื่อนไขเบื้องต้นของประชาธิปไตยเสรีนิยม (Lipset 1959) ในประเทศที่ไม่มีวัฒนธรรมประเพณีการปกครองโดยเสียงส่วนมาก การเลือกตั้งเสรีอย่างเดียวจะไม่พอให้เปลี่ยนจากระบอบเผด็จการไปเป็นประชาธิปไตย จะต้องมีทั้งการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมทางการเมืองที่ใหญ่กว่านั้น และการสร้างสถาบันเพื่อการปกครองแบบประชาธิปไตยอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีประเทศตัวอย่างหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่นในลาตินอเมริกา ที่ดำรงระบอบประชาธิปไตยได้เพียงแค่ชั่วคราวหรืออย่างจำกัด จนกระทั่งวัฒนธรรมทั่วไปเปลี่ยนแปลงแล้วสร้างสภาวะที่ประชาธิปไตยสามารถเจริญงอกงามได้
แง่มุมกุญแจสำคัญของวัฒนธรรมประชาธิปไตยก็คือแนวคิดเกี่ยวกับ “ฝ่ายค้านที่จงรักภักดี” คือแม้ว่า ฝ่ายตรงข้ามจะเห็นไม่ตรงกัน แต่ก็ยอมอดทนและยอมรับบทบาทสำคัญทางการเมืองอันเป็นไปตามกฎหมายที่แต่ละฝ่ายมีส่วนได้ ซึ่งเป็นเรื่องเปลี่ยนได้ยากในวัฒนธรรมของประเทศที่การเข้าสู่อำนาจตามประวัติมักจะอาศัยความรุนแรง แก่นสารของหลักนี้ก็คือ ทุกฝ่ายในระบอบประชาธิปไตยต้องเทิดทูนคุณค่าพื้นฐานของมันเหมือน ๆ กัน
กฎพื้นฐานของสังคมต้องสนับสนุนให้อดทน สุภาพ และมีมรรยาทในการอภิปรายต่อหน้าธารกำนัล ในสังคมเช่นนี้ ผู้ที่พ่ายแพ้ต้องยอมรับการตัดสินใจของผู้ลงคะแนนเสียงเมื่อการลงคะแนนเลือกตั้งยุติแล้ว และอำนวยให้อำนาจเปลี่ยนมือได้โดยสันติภาพ โดยผู้แพ้ก็จะรู้สึกปลอดภัยด้วยความเข้าใจได้ว่า ตนจะไม่เสียชีวิตหรือเสรีภาพ และจะมีส่วนร่วมทางการเมืองได้ต่อไป คือ พวกเขาไม่ได้จงรักภักดีต่อนโยบายโดยเฉพาะ ๆ ของรัฐบาล แต่ต่อความชอบธรรมตามกฎหมายของรัฐและของกระบวนการประชาธิปไตยเอง
กำเนิด

slot

ประชาธิปไตยเสรีนิยมมีแหล่งกำเนิดและได้ชื่อมาจากยุโรปสมัยคริสต์ทศวรรษที่ 18 ที่เรียกว่ายุคเรืองปัญญา ในเวลานั้น รัฐส่วนมากในยุโรปเป็นราชาธิปไตย โดยพระราชาหรือขุนนางมีอำนาจทางการเมือง แต่ประชาธิปไตยในฐานะระบอบการปกครอง ไม่ได้รับพิจารณาอย่างจริงจังตั้งแต่สมัยคลาสสิกโบราณแล้ว เพราะความเชื่อทั่วไปว่า ประชาธิปไตยไม่เสถียรโดยธรรมชาติและจะสร้างความยุ่งเหยิงในนโยบายของรัฐ เพราะประชาชนจะเปลี่ยนใจไป ๆ มา ๆ และว่า ประชาธิปไตยขัดแย้งกับธรรมชาติมนุษย์ เพราะมองว่า มนุษย์ตามธรรมชาติชั่วร้าย รุนแรง และจำเป็นต้องมีผู้นำที่เข้มแข็งเพื่อควบคุมความหุนหันพลันแล่นที่ก่อความเสียหาย ส่วนพระราชาชาวยุโรปก็ทรงถือว่า อำนาจของพระองค์เป็นสิทธิที่มาจากพระเป็นเจ้า และแม้แต่ความสงสัยต่อสิทธิเพื่อปกครองของพระองค์ก็เท่ากับเป็นการดูหมิ่นศาสนา
ความคิดในกรอบเช่นนี้ต่อมาถูกคัดค้านโดยกลุ่มปัญญาชนเล็ก ๆ ในยุคเรืองปัญญาผู้เชื่อว่า
กิจของมนุษย์ควรทำตามเหตุผล ตามหลักเสรีภาพและหลักความเท่าเทียมกัน
มนุษย์ทั้งหมดเกิดมาเท่าเทียมกัน และดังนั้น อำนาจทางการเมืองไม่สามารถมีเหตุเพียงจาก “เลือดขุนนาง” จากความสัมพันธ์แบบอภิสิทธ์กับพระเป็นเจ้า หรือลักษณะอื่นทั้งหมดที่อ้างว่า ทำให้บุคคลหนึ่งดีกว่าอีกคนหนึ่ง
รัฐบาลมีไว้เพื่อรับใช้ประชาชน ไม่ใช่ตรงกันข้าม
กฎหมายควรบังคับใช้ต่อทั้งผู้ปกครองและผู้อยู่ใต้การปกครอง ซึ่งเป็นแนวคิดซึ่งต่อมาเรียกว่า หลักนิติธรรม